วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้


ให้นักศึกษาเขียนประเมินอาจารย์ผู้สอนในประเด็นดังนี้


1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้

ตอบ ได้รู้ตั้งแต่วิวัฒนาการของการศึกษาจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน การศึกษาในยุคอาเซียน ปรัชญาต่างๆ มุมมองความคิดของหลายๆเกี่ยวกับการศึกษา

2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

ตอบ ข้อดี      เราสามารถฝึกใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์
        ข้อเสีย  งานบางอย่างก็สามารถไปcopy มาได้จากในเว็บ โดยที่เราไม่ได้คิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน

3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก

ตอบ ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะเป็นการนำสื่อเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์และมันก็สามารถเก็บรักษางานได้นานและสะดวกกว่าการเขียนในกระดาษ

4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล

ตอบ  ประเมินให้ A เนื่องจากอาจารย์เป็นคนที่มีความตรงต่อเวลาเป็นอย่างมากซึ่งมันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการประกอบอาชีพ และอาจารย์เป็นคนที่ขยัน ตั้งใจสอนมาก รวบรวมเนื้อหา ความรู้ใหม่ๆมาให้เราได้ศึกษา ค้นคว้ากัน ซึ่งมันสื่อให้เห็นถึงความเอาใจใส่ที่อาจารย์มีต่อลูกศิษย์

ครูในดวงใจ


ประวัติส่วนตัว


ชื่อ นาง สุดารัตน์   เกียรติก้องแก้ว
เพศ  หญิง  
วัน เดือน ปี เกิด   5/10/2514   
อายุ 44 ปี
สถานภาพ  สมรส
ตำแหน่งปัจจุบัน ครู คศ.2
ปัจจุบันสอนอยู่โรงเรียน ร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนทราภิวัฒน์
วิชาที่สอน เคมี
วุฒิการศึกษา
จบ ระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียน กัลยาณีศรีธรรมราช
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์



ทำไมถึงเลือกมาเป็นครู?
             หลังจากเรียนจบ มีการเปิดสอบบรรจุครู เลยไปสอบ ทิ้งไว้ หลังจากนั้นก็ ไปทำงาน โรงงานผลิตกล่องกระดาษ ในตำแหน่ง ฝ่ายวางแผนการผลิต แต่ใจอยากเป็นครูมากกว่า พอประกาศผลออกมาว่าได้ จึงลาออกมาเป็นครู เพราะ รู้สึกสนุกกับการสอนเด็ก มากกว่า การคุม คนงานในโรงงาน





ความรู้สึกตอนสอนเด็กครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?

   
    สอนครั้งแรก ระดับชั้น ม.6/1 ด้วยความที่เครียดว่าจะสอนไม่ได้ เลยเตรียมเนื้อหา แบบฝึก ต่างๆ ไว้อย่างดี รวมทั้งฝึกการพูดหน้ากระจก พยายามเรียงเนื้อหา และใช้คำพูดที่คิดว่านักเรียน จะเข้าใจได้ง่ายพอเราเตรียมตัวเต็มที่ ความตื่นเต้นก็ลดลง รู้สึกเหมือน เรากำลังแสดงละครที่เป็นบทสำคัญมากๆ เพราะหมายถึง การสร้าง อนาคตให้กับ คนชม ทั้งห้อง


รูปแบบการสอนของอาจารย์เป็นยังไง?
                  ใช้การทำความเข้าใจเนื้อหา โดยการตั้งคำถามให้คิด นักเรียนอาจจะเครียด ในการเรียนแบบนี้ เพราะมีการถาม อยู่ ตลอดเวลา แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ นักเรียนจะเข้าใจ ได้ลึกซึ้ง


      
        ความยากง่ายของความเป็นครูมีอะไรบ้าง?
      
         ในความรู้สึกของครู ความยาก คือ เราคือผู้สร้างทั้งความรู้ ความคิด และ แนวทางในการใช้ชีวิตให้เด็ก ต้องทำให้เขา เข้าใจ และเตรียมพร้อม สำหรับการใช้ชีวิต จริงๆ ให้ได้

แล้วครูมีปรัชญาในการดำเนินชีวิตของการเป็นครูว่ายังไง?

มีความสุข กับสิ่งที่มี ค่ะ

      ทัศนคติที่ครูมีต่อนักเรียนเป็นยังไง?
             วัยเรียน เหมือนการเดิน ขึ้นภูเขา เราต้องฝึกให้เขาแข็งแกร่ง ทั้งความรู้ และความคิด รวมทั้งการอยู่ในสังคม จึงค่อนข้างเข้มงวด กับ นักเรียน มากๆ และคิดว่า นักเรียน บางคนเหมือนน้ำ ที่ไม่ยอมไหล ขึ้นที่สูง ครูเลยต้องใช้ กำลังบ้าง ฮา

     

       ความรู้สึกตอนสอบบรรจุได้เป็นยังไง?
       คิดว่า เราต้องเกษียร เป็นครูแก่ๆ คนหนึ่ง ใน อนาคต ค่ะ

       ครูมีเป้าหมายอะไรบ้างจากการเป็นครู?
       สร้างคน ให้มีความคิดที่ดี ไม่ทุจริต พึ่งตัวเองได้ รู้จักบทบาทหน้าที่ของตัวเอง

       ครูคิดว่าคนแบบไหนเหมาะแก่การเป็นครู
       คนที่ควรเป็นครู ก็คงเหมือน คนที่ควรเป็น ในการทำงานอื่นๆ ด้วย หลักๆ คือ ครูต้องไม่เอาเปรียบ เด็ก ไม่เอาเปรียบโดยการ ไม่สอน หรือ สอนแต่เนื้อหาง่ายๆ ตื้นๆ เพื่อให้ตัวเองสบายๆ และที่สำคัญ คือ อย่าหวังแต่จะให้เด็กรัก โดยการเอาใจ แม้กระทั้่ง เด็กทำผิดกฎ ระเบียบ ก็ยังช่วย เพราะ เขาไม่ได้สร้าง ความเป็น คนดี ให้เกิดกับ ความคิดของเด็ก








ข้อสอบกลางภาค



ให้นักศึกษาทำข้อสอบต่อไปนี้ ลงในบล็อกของนักศึกษา 20 คะแนน
1.การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ   การศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน เป็นระบบไม่มีแบบแผนและรูปแบบที่ชัดเจน มีวัดเป็นแหล่งให้ความรู้ โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพวิชาความรู้ ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ ใช้ความสามารถในการท่องจํามากกว่า

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ  แตกต่างกัน  การจัดการศึกษาไทยสมัยกรุงสุโขทัย สถานที่เรียน 3 แห่งคือ สำนักสงฆ์ต่อมาเป็นวัด อีกแห่งหนึ่งคือ สำนักปราชญ์ราชบัณฑิต และท้ายสุดคือ ราชสำนัก และการจัดแบ่งการศึกษาเป็น 4 องค์คือ จริยศึกษา พลศึกษา พุทธิศึกษา และหัตถศึกษาส่วนการจัดการศึกษาสมัยกรุงศรีอยุธยา พบว่าศึกษาที่วัด และบ้าน ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรกรับวิชาการแบบยุโรป และแต่งแบบเรียนคือ จินดามณี เล่มแรกของไทยอีกทั้งได้ติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก ค้าขายและเผยแพร่ศาสนา มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ขึ้นด้วย

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ  1.ภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจ
          2.แนวคิดและวิทยาการต่างๆของชาวตะวันตก
          3.การติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น
                4.สภาพสังคมเศรษฐกิจและการเมืองเปลี่ยนแปลงไป

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ มีความก้าวหน้าในการเริ่มนำวิทยาการใหม่ๆมีการจัดพิมพ์ตำราเรียนเป็นจุดเริ่มต้น การปฏิรูปการศึกษาของไทยในสมัยต่อไป

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ จินดามณี เกิดในสมัยอยุธยา ตรงกับรัชกาลของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  มีที่มาจากการที่ฝรั่งเศสได้ติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ การศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา เป็นกฎการกำหนดให้เยาวชนได้รับการศึกษา มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองดี

 7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ     สถานที่เรียนคือที่ตั้งของวัด บริเวณหอฉัน หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิและวิหาร
มีพระภิกษุเป็นผู้สอน  สามเณรและศิษย์วัดเป็นผู้เรียน เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
อุปกรณ์การเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายและปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น  วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ รัชกาลที่ 5 เพราะต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถมาพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมกับชาติตะวันตกในทุกด้าน

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการศึกษามากยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ด้วยตนเองและยังทำให้เราสามารถค้นคว้าสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น
อย่างเช่น การทำรายงานเรื่องกล้วยไม้ที่ออกดอกตลอดปี เราสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่สืบค้นเรื่องเหล่านี้ได้

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน พัฒนาศักยภาพของนักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา สร้างโอกาสทางการศึกษา และเพิ่มคุณภาพการศึกษาการจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์ การสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรรายสาขาอื่น ๆ เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม การจัดการความเสี่ยงและภัยพิบัติ การจัดการศึกษาเพื่อสิทธิมนุษยชน


การศึกษาโลก


การศึกษาโลก

      คุยกับ ดำรง พุดตาล  มาตรฐานการศึกษาไทย

         การจัดการศึกษาให้เข้ากับ AEC ท่านได้กล่าวว่า ประเทศสิงคโปร์ได้ทุ่มเงินเพื่อการศึกษาเป็นที่ส่วนไทยให้งบการศึกษาอยู่ในอันดับที่ประเทศมาเลเซียก็มีโรสแมพทางการศึกษาที่ชัดเจน และในอาเซียนได้มีการจัดลำดับทางการศึกษา อันดับที่1ได้แก่สิงคโปร์ ส่วนไทยเราเป็นอันดับที่ของอาเซียนรองจากเวียดนาม อันดับ6คือกัมพูชา คุณภาพประถมศึกษาของทั้งโลก ไทยเราอยู่อันดับที่86ในอาเซียนอันดับและคุณดำรงได้ลงพื้นที่ไปโรงเรียนบ้านท่ากระดานในจังหวัดพิจิตรพบว่าโรงเรียนนั้นมีพื้นที่กว้างขวางแต่มีจำนวนเด็ก54คนซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ100คน ส่วนใหญ่ผู้ปกครองของนักเรียนก็จะพานักเรียนไปเรียนโรงเรียนดังๆในเมืองซึ่งแสดงว่าประชาชนไม่ไว้ใจการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านท่ากระดาน และแสดงให้เห็นว่าการจัดการศึกษามีความไม่ทัดเทียมกันทั้งประเทศ และพูดถึงเรื่องครูส่วนมากเด็กที่ตกจากคณะดังเช่นหมอ วิศวะ ก็จะเลือกเรียนหมอ มาเลือกเรียนที่ราชภัฎและเด็กก็ขาดความตั้งใจ ราชภัฎไม่ได้ร่างหลักสูตรตามสังคมต้องการ  สังคมปัจจุบันต้องการคนจบสาขาบริหาร มากกว่าครู และเราต้องมองความต้องการของต่างประเทศด้วยว่าต้องการอะไร และต้องส่งเสริมให้นักเรียนเข้าใจอาเซียนจริงๆ ไทยเราต้องพัฒนาภาษาอังกฤษเป็นสำคัญอย่าอ้างว่าไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใครเพราะมิฉะนั้นจะทำให้เราไม่สามารถสื่อสารกับประเทศอื่นได้


                ดร สุรินทร์ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง การขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ประชาคมอาเซียน

         พูดถึงการศึกษาเตรียมตัวเข้าสู่อาเซียนเราต้องเตรียมทุกระดับตั้งแต่ผู้กำหนดนโยบายจนถึงผู้เรียน เพราะการศึกษาเท่านั้นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่สร้างสรรค์แก่สังคมและประเทศชาติ อาเซียนก่อตั้งเมื่อ 8สิงหาคม2510 เป็นความคิดของนักการฑูตไทยเป็นมรดกทางการฑูตที่เรามอบให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยที่มอบให้กับประชาคมโลก ปี2510ประเทศอื่นเพิ่งหลุดจากการเป็นประเทศอาณานิคม ไทยประเทศเดียวที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ประเทศไทยมีอายุมากกว่าประเทศอื่นในอาเซียนจึงได้เป็นผู้นำแต่เดี่ยวนี่เป็นผู้นำคนอื่นไม่ได้แล้วเพราะเมื่อขึ้นเวทียังต้องอ่านโพยที่เค้าเตรียมให้ อินโดนีเซียตื่นเต้นมากกับการเป็นประชาธิปไตยเพราะเค้าเพิ่งได้รับประชาธิปไตย ส่วนมาเลเซียพยายามผลักดันเรื่องทำอย่างไรให้ความขัดแย้งของคนในโลกเกิดขึ้นโดยคนสุดโต่งที่อยู่ซ้ายสุดและขวาสุดโดยคนอยู่ตรงกลางไม่ค่อยพูดแต่เค้าพยายามผลักดันให้คนกลางได้แสดงความคิดเห็น ไทยในตอนนี้ไม่มีอะไรที่เป็นผลประโยชน์แก่การฑูตเลย สิ่งหนึ่งที่โลกกำลังต้องการในตอนนี้คือ สิ่งใดที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคต ขณะนี้ประชากรโลกมีความแออัดมาก จีนกำลังมีปัญหากับหลายประเทศ ในปีค.ศ.2050มนุษย์จะมีจำนวน 9,000 ล้านคน ลองคิดดูเราจะเอาอาหารที่ไหนกินกัน เพราะน้ำก็จะหมด ป่าก็จะไม่มี ปลาก็จะไม่เหลือ โลกขณะนี้กำลังคิดถึงความยั่งยืนของโลก องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีการคิดค้นเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นและนี่เป็นคำตอบที่โลกต้องการ นครศรีธรรมราชควรจะภูมิใจกับทรัพยากรของเราเองทุกอย่างมีพร้อม และเชื่อไหมไม่นานน้ำก็จะหมด ป่าก็จะหมด เมื่อน้ำท่วมน้ำจะท่วมเร็วมากเพราะไม่มีต้นไม้ในการซับน้ำ ตอนนี้ตะวันตกเริ่มตระหนักในการรักษาป่ารักษาน้ำ เราทางตะวันออกกลับทำลายไม่สิ้นสุด มีเพียงการศึกษาเท่านั้นที่จะยับยั้งวิกฤติของโลกได้ อาเซียนตั้งขึ้นมาที่ให้หันหน้าเข้าหากันเพื่อคิดว่าจะอยู่กันอย่างไรให้อยู่อย่างมีความสุขและอยู่อย่างมีความสงบระหว่างกันในอาเซียน ตอนที่เรารบกับเขมรถ้าไม่มีอาเซียนอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อมีปัญหากันในอาเซียนก็กระทบกระทั่งทั้งโลก เราต้องเชื่อพลังของการศึกษา แต่ไม่เชื่อว่าการศึกษาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ การศึกษาเป็นบันไดที่จะให้เราไต่เต้าขึ้นไปสู่ความสำเร็จ อาเซียนเป็นโอกาสแต่เป็นโอกาสสำหรับคนพร้อมที่จะขึ้นไปแข่งขัน เขาตกลงกันว่าจะมี8สาขาอาชีพที่สามารถทำงานได้กับทุกประเทศในอาเซียน เช่น หมอ หมอฟัน พยาบาล นักบัญชี ผู้บริหารในโรงแรมหลายตำแหน่งในโรงแรมย้ายไปทั่วอาเซียนได้ เป็นนักสำรวจประเมินราคาทรัพย์สิน อาคาร บ้านเรือน ที่ดิน สามารถย้ายไปทั่วอาเซียนได้ ปัญหาคือเมื่ออาเซียนเปิดไม่แค่เปิดให้เราออกไปแต่ยังเปิดให้บุคคลในอาเซียนทุกคนเข้ามาได้ด้วย เพราะฉะนั้นอาเซียนคือโอกาส เต็มไปด้วยสิ่งท้าทายน่าสนใจ ชีวิตในอาเซียนสามารถลื่นไหลได้ สอนให้เด็กรู้จักคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหาดีกว่าท่องจำ ที่เราเรียนเพราะให้พร้อมรับสถานการณ์ของอาเซียนที่จะเข้ามาในไม่ช้า ขณะนี่ภาษาอังกฤษของไทยยังอ่อนมาก เพราะผู้ปกครองมีความคิดเดิมๆที่ว่าเรียนที่นี่ จบที่นี่ ทำงานที่นี่แหละไม่ต้องไปไหน ถ้าทำให้เด็กบรรลุถึงศักยภาพสูงสุดของเขาแล้วนั้นหมายความว่าเป็นความสำเร็จของสังคม ปรัชญาการศึกษาที่ถูกต้องคือนำสิ่งที่เด็กมีอยู่ในตัวออกมาให้ได้คุณภาพสูงสุดในทางสร้างสรรค์


                การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน

         ภาคใต้เป็นจุดภูมิศาสตร์ที่ได้เปิดรับอิทธิพลต่างๆตั้งแต่สมัยโบราณ โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและในขณะเดียวกันก็ปรับตัวเข้าหากันด้วย ในขณะเดียวกันก็มีคนชนชั้นกลางในอาเซียนที่ยังต้องการการพัฒนาหลายอย่าง จึงมีประเทศที่อยากเข้ามาทุระกิจในไทย ตอนนี้อาเซียนมีเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด ประเทศในอาเซียนต้องสามัคคีกันเพราะมีหลายประเทศต้องการที่จะมาลงทุนในอาเซียนและมีการเชื่อมโยงระหว่างกันทางด้านต่างๆมากขึ้น ตอนนี้ระยะห่างช่องว่างทางการเงินของคนแต่ละประเทศมีขนาดช่องว่างที่มากทำให้จะมีการลงทุนระหว่างกันไม่ได้มากนัก เพราะว่าฝ่ายหนึ่งจนฝ่ายหนึ่งรวย ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต้องเป็นหนึ่งเดียวเพื่อจะได้แข่งขันกับนานาประเทศได้ ประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะที่ไม่มีทรัพยากรใดๆแต่การกำหนดราคา การกำหนดเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับประเทศนี่ เพราะบุคลากรของเค้ามีความฉลาด ความแตกต่างหลากหลายของอาเซียนมันเป็นภาพสะท้อนของความแตกต่างหลากหลายของโลก ส่วนการเรียนภาษาต่างประเทศก็เป็นกุญแจขนาดใหญ่ที่จะไขเข้าสู่อนาคต


               ระบบการศึกษาในสิงคโปร์

         ระบบการเรียนการสอนในสิงคโปร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก เพราะเมื่อคนที่เรียนจบแล้วมีงานทำตามสาขาที่เรียนมาถือว่าเป็นการออกแบบหลักสูตรที่ตอบสนองต่อคนเรียน และจะพัฒนาเศรษฐกิจในทิศทางใด ในสิงคโปร์แบ่งระดับการศึกษาโดยชั้นประถมศึกษา1-4 เน้นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาทมิฬ คณิตศาสตร์และวิชาอื่นๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่5-6แบ่งเป็น3ระดับโดยมีการวัดระดับในชั้นป.4. ว่าจะต้องเรียนในชั้นมัธยมเป็นเวลา 4 หรือ 5 ปี ระดับมัธยมศึกษาแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ เรียน4ปี หรือเรียน5ปี หารเรียนดีจะได้เรียนเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย 2-3ปี หรือสามารถเลือกเรียนสายอาชีพได้ และมีการเปิดเรียนสายโปลีเทคนิคจบออกไปแล้วก็ทำงานทันที การที่จะได้คัดเลือกมาเรียนในโรงเรียนที่สิงคโปร์นั้นเป็นเรื่องยากคือ ต้องสอบการประเมินผลทั้ง ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และต้องทดสอบภาษาจีน  ส่วนนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนในสิงคโปร์ก็ต้องจ่ายค่าบำรุงการศึกษาให้กับกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ทุกๆ 2 ปี เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะมาเรียนที่นี่เพราะค่าใช้จ่ายทางการศึกษาน้อย และที่สำคัญที่นี่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน  สิงคโปร์ประกาศว่าจะตั้งเป็นศูนย์การของการศึกษามาตรฐานโลกเพราะฉะนั้นแผนพัฒนาการศึกษาของสิงคโปร์น่าสนใจ สิงคโปร์ประกาศให้ทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม สิงคโปร์จะดึงดูดให้นักศึกษาต่างประเทศเข้ามาศึกษาในประเทศมากขึ้น รัฐบาลสิงคโปร์จะทำยุทธศาสตร์ไว้7ข้อ ที่จะเป็นศูนย์กลางการศึกษา1.เน้นผลลัพธ์ทางการศึกษา 2.เน้นจิตสำนึก แรงจูงใจ การใฝ่รู้ 3.ทุ่มทรัพยากรด้านการเงินแก่การศึกษา 4.การบริหารจัดการแบบศูนย์รวม 5.หลักสูตรการเรียนการสอนที่เข้มแข็ง 6.ประเมินตัวเองให้มากขึ้น 7.แรงสนับสนุนจากครอบครัวผู้เรียน ระบบการศึกษาของสิงคโปร์เป็นระดับโลกศาสตราจารย์ของเรา ก็ผลิตงานวิจัยระดับโลก และก็ยังมีการเรียนการสอนที่ดี ศาสตราจารย์อาวุโสหลายท่านก็ให้คำปรึกษาได้ดี โดยเฉพาะหลักสูตรบริหารธุรกิจมีความเป็นสากลมาก มีความหลากหลายมากในชั้นเรียนเพราะนักเรียนกว่า20-30 ชาติจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เด็กที่เข้ามาเรียนในสิงคโปร์ต้องการการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน และจบไปแล้วมีงานรองรับ สิงคโปร์ยอมทุ่งเงินเพื่อให้ได้อาจารย์ที่ดีมาสอนส่วนมากจะเป็นอาจารย์ระดับโลก


               การศึกษาในเวียดนาม

         โรงเรียนส่วนใหญ่เน้นวิชาต่างประเทศมากขึ้น การเรียนของเขาได้ให้เด็กมีส่วนร่วมในการจัดตารางเรียนเพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น ทุกภาคการศึกษาครูจะต้องประเมินความรู้เด็กเพื่อจัดลำดับคุณภาพการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และครูก็จะหมุนเวียนไปอบรมกับหลักสูตรนานาชาติและทางโรงเรียนจะมีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน


                  การศึกษาในลาว

         นักเรียนที่นี่ในชั้นสุดท้ายของระดับมัธยมศึกษาแต่ต่างจากสิงคโปร์ การศึกษาที่นี่ไม่ดุเดือดนัก และการสอบเข้ามหาลัยไม่ใช่ความหวังสูงสุดของคนในลาว ก่อนวันสอบเข้ามหาลัยเด็กๆทุกประเทศคร่ำเคร่งอยู่กับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่ไม่ใช่กับเด็กๆในลาว ปี2554รัฐบาลลาวได้ปรับแผนการศึกษาจากเดิมในระบบ 11 ปีเป็นระบบ 12 ปี ให้ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆในอาเซียน


               การศึกษาในมาเลเซีย

         ปฏิรูปการศึกษาของมาเลเซียสู่การเป็นผู้นำภูมิภาค มาเลเซียเป็นชาติที่มีความแตกต่างทางชาติพันธุ์จึงพยายามหาแนวทางสร้างความแตกต่างให้อยู่ภายใต้ชาติที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ด้วยความที่ชาวมาลายูซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม เป็นกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ รัฐบาลมาเลเซียจึงนำแนวคิดทางศาสนามาปรับเข้ากับหลักสูตรทางการศึกษาแบบตะวันตกโดยสร้างสมดุลระหว่างความรู้ภาษาอังกฤษและองค์ความรู้สมัยใหม่ให้เข้ากับคำสอนศาสนาอิสลาม และประกาศให้เป็นปรัชญาการศึกษาของประเทศ ในปีค.ศ.1979 ในปีค.ศ.2012 รัฐบาลของมาเลเซียได้ประกาศแผนปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ ค.ศ.2013-2025 เพื่อพัฒนาระบบการศึกษาพร้อมตั้งเป้าการเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค หลังการคาดการณ์ว่าการเข้าเรียนของนักเรียนทั่วโลก 42 เปอร์เซ็นต์ จะกระจุกตัวอยู่ในเอเชียแปซิฟิก แผนนี่ได้กำหนดไว้ว่า อันดับความสามารถของเด็กมาเลเซียที่เคยอยู่ในฐานล่างและฐานกลางของพีระมิดเมื่อมีการจัดอันดับในเวทีโลกแล้ว ต้องขยับขึ้นมาบนฐานบนสุดให้ได้ภายในเวลา13ปี และมาเลเซียยังจะต้องเป็นประเทศผู้ส่งออกการศึกษาอันดับต้นๆของโลกภายใน ค.ศ.2020 เพื่อดึงดูดนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนให้ได้ 2แสนคน ด้วยเหตุนี่รัฐบาลมาเลเซียจึงสร้างเมืองการศึกษาขึ้น 2 เมือง คือ กัวลาลัมเปอร์ และเขตเศรษฐกิจพิเศษเอสกันดา  ล่าสุดผู้นำมาเลเซียประกาศว่าจะผลักดันการเรียนการสอนวิชาเสต็มซึ่งประกอบด้วย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ให้มีสัดส่วนในการเรียนคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ และลดการเรียนวิชาอื่นๆลงเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะรัฐบาลเชื่อว่าวิชาสายวิทยาศาสตร์จะทำให้เด็กรู้รักการคิด วิเคราะห์ด้วยหลักการและเหตุผล นอกจากนี้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกยุคใหม่จะเกิดขึ้นจากความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ดังนั้นพื้นฐานทางด้านวิชาเสต็มที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เด็กซึ่งเป็นกำลังของชาตินำพามาเลเซียก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำได้ในอนาคต


                 ปฏิรูปการศึกษาอินโดนีเซีย

         ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียกล่าวว่า ปัจจุบันคนอินโดนีเซียรั้งท้ายชาติอื่นเพราะมีทัศนคติในแง่ลบต่ออุปสรรคอื่นๆที่ฝังรากลึกอย่างยาวนาน เช่นโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างเชื่องช้าและระบบการศึกษาที่ไม่ได้ผลแม้ว่ารัฐธรรมนูญอินโดนีเซียจะบัญญัติว่าพลเมืองทุกคนต้องได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน และให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณสำหรับกระทรวงศึกษาธิการเท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประจำปีทุกปี


             ปฏิรูปการศึกษาในฟิลิปปินส์
                                         
         ขณะนี่ฟิลิปปินส์กำลังมาแรงในเรื่องของสถาบันสอนภาษามีชาวต่างชาติหลายชาติที่แห่เข้าไปเรียนภาษา เมืองบาเกียวเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อทางการศึกษาเพราะประชากรกว่าครึ่งเป็นนักเรียนและนักศึกษา ในเมืองนี้มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวเกาหลีและมีชาวเกาหลีจำนวนไม่น้อยที่มาเรียนภาษาที่นี่ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาฟิลิปปินส์คือพื้นที่เริ่มต้นที่ดีสำหรับการเรียนเพราะเมื่อผู้เรียนเก่งแล้วพวกเขาสามารถไปต่อยังประเทศอื่นๆได้ง่ายเพราะสามารถสื่อสารได้แล้ว แต่การสร้างพื้นฐานนั้นเป็นเรื่องยากและสำคัญมากและปัจจัยเรื่องวัฒนธรรมก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ชาวเกาหลีเลือกมาที่นี่เพราะชาวเอเชียจะมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมที่คล้ายกัน ซึ่งต่างจากชาติตะวันตก พวกเราเคารพผู้อาวุโสกว่า ให้ความสำคัญกับครอบครัว จึงง่ายที่จะสานสัมพันธ์ต่อกัน และเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญทำให้นักเรียนเลือกมาเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์ ส่วนบุคลากรที่นี่ก็ต้องเป็นครูชาวฟิลิปปินส์ แต่เป็นการยากที่จะสอนให้เด็กต่างชาติเข้าใจได้

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วิดีโอการศึกษา



1. ชื่อเรื่อง 

    ผมเกลียดโรงเรียน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้:

       บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่มีหยุดการเรียนรู้ โดยโรงเรียนคือล๊อคเกอร์และการศึกษาคือกุญแจ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกกรอบหนังสือ ทำให้เด็กคิดนอกกรอบไม่เป็น จากสุภาษิตไม่มีประโยชน์ที่จะจ่ายเงินเพื่อการศึกษาเพื่อคนบ้า เพราะพวกเขาไม่มีสามัญสำนึก การศึกษาคือการจุดประกายความคิดไม่ใช่แค่การยัดเยียดอะไรลงไปในสมอง การศึกษาไม่ใช่แค่การท่องจำในตำราหรือแค่ว่าทำตามคนอื่นเพื่อให้สอบผ่านไปพ้นๆ

 ข้อคิดที่ได้ :

       ถ้าคุณไม่สร้างฝันของตัวเองคนอื่นจะจ้างคุณไปสร้างฝันให้เขาแทน


2. ชื่อเรื่อง 
    
สตีฟ จ็อบส์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้ :

       สตีฟ จ๊อบส์ ไม่เคยเรียนจบปริญญา เค้าตัดสินใจหยุดเรียนชั่วคราวสาเหตุของเรื่องนี้เกิดตั้งแต่เค้าอยู่ในท้องแม่ที่ยังไม่ได้แต่งงานและยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเมื่อเค้าเกิดแม่ของเค้าก็ได้ตัดสินใจยกเค้าให้กับครอบครัวใหม่ของเค้าซึ่งแม่ก็เรียนไม่จบมหาวิทยาลัยและพ่อก็ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำแต่ครอบครัวใหม่ของเค้าได้ให้สัญญาว่าจะส่งเค้าเข้าเรียนมหาวิทยาลัยให้ได้และนี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตของเค้า และเมื่อเค้าได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเค้าก็ตัดสินใจพักการเรียนและเค้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ต่อมาเค้าได้เข้าไปเรียนวิชาประดิษฐ์ตัวอักษรที่ยอดเยี่ยม อีก10ปีต่อมาเมื่อทีมของเค้าได้ประดิษฐ์เครื่องแม็กอินทอชร์ขึ้นและเค้าเชื่อว่าต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่วแน่ เพราะความเชื่อที่เรามีต่อจุดแต่ละจุดนั้น ในที่สุดมันจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเอง และมันจะให้ความมั่นใจทำตามสิ่งที่หัวใจคุณต้องการ ถึงแม้บางครั้งมันอาจจะพาคุณออกนอกเส้นทางบ้าง และสิ่งนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เค้าและเพื่อนได้เริ่มสร้างโรงงาน แอปเปิ้ล ในตอนเค้าอายุ20ปี เค้าและเพื่อนทำงานอย่างหนักและพัฒนาบริษัทของเขาจนมีพนักงานจำนวนมาก และได้เปิดตัวเครื่องแม็กอินทอชร์ และในระยะปีกว่าเค้าถูกไล่ออกจากบริษัทของตัวเองเพราะการมีมุมมองที่แตกต่างกันจึงตัดสินใจแยกกันและไม่นานเขาก็ได้กลับมาทำสิ่งที่เขารักอีกครั้งได้อย่างมีอิสระ อย่ามัวติดอยู่กับกฎเกณฑ์ ความเชื่่อ ที่ผู้คนงมงายยึดถือมันเอาไว้ อย่าปล่อยให้เสียงของคนอื่นดังกลบเสียงภายในของคุณเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจงกล้าที่จะเดินตามหัวใจปราถนาและสัญชาติญาณ

ข้อคิดที่ได้

     อยู่อย่างกระหายและเรียนรู้อยู่เสมอ

3. ชื่อเรื่อง

บิล เกตต์

ข้อสรุปประเด็นที่ได้ :

    1.) ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร
    2.) ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง 
    3.) อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ 
    4.) การทำงานน่าเบื่อสุด 
    5.) การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด 
    6.) จงเรียนรู้ความผิดพลาด 
    7.) จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว 
    8.) ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก
    9.) ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ 
    10.) จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง
    11.) มีมิตรภาพกับความเนิร์ด

ข้อคิดที่ได้:

      การประสบความสำเร็จในหน้าที่ควรเริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อนและจงก้าวอย่างระมัดระวัง

4. ชื่อเรื่อง 

   ตัน อิชิตัน

ข้อสรุปประเด็นที่ได้ :

       อย่ารอโอกาสให้เข้ามาหาเราเพียงอย่างเดียว เราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองด้วยการที่ประสบความสำเร็จได้นั้นมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบายในวันข้างหน้า โดยคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้นั้น ไม่ว่าใครก็ตามอยากมีอนาคตที่ดีเช่นนี้ ควรมีวิธีคิดติดลบให้เป็นบวกหรือการนำข้อผิดพลาดมาเป็นบทเรียน เพื่อที่เราจะไม่ต้องผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก

ข้อคิดที่ได้  :

       อย่ารอให้โอกาสเข้ามาหาเราฝ่ายเดียวเราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองด้วย